การที่เราจะเป็นข้าราชการทหารตำรวจได้นั้นสิ่งแรกเลยเหนือกว่าอย่างอื่นนั้นคือเราต้องเป็นชายไทยสัญชาติไทยโดยกำเนิดและยังต้องมีการศึกษาขึ้นต่ำตั่งแต่ชั้นประถม ป.หนึ่ง ถึง ป.หก และยังต้องศึกษาต่ออิกมัธยมต้นม.หนึ่งถึงม.สามเป็นอย่างต่ำและยังต้องมีอายุครบสิบห้าปีบริบูรณ์และยังต้องมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านเขตนั้นๆด้วยอิกด้วยและยังต้องเป็นบุคคลภายนอก เพศชาย สถานภาพโสด อายุไม่ต่ำกว่าสิบแปดปีบริบูรณ์และไม่เกินยี่สิบเจ็ดปีบริบูรณ์นับถึงวันรับสมัค
สูงไม่น้อยกว่าหนึ่งร้อยหกสิบเซนติเมตรรอบอกไม่น้อยกว่าเจ็ดสิบเจ็ดเซนติเมตรและกฎข้อความหลักของการเป็นทหารตำรวจคือห้ามมีรอยสักบนร้างกายเด็ดขาดและต้องได้รับการสอบจากกระทรวงทหารตำรวจก่อนและต้องมีการสอบภาคปฏิบัติเช่นการวิ่งห้าร้อยเมตรและการว้ายน้ำสามร้อยเมตรและการซิทอัพสองร้อยครั้งถ้านักศึกษาที่มาสอบภาคปฏิบัติเสร็จก็ถือว่าผ่านเป็นตำรวจแต่มันจะต้องมีกฎเกณฑ์ดังนี้อย่างเช่นการวิ่งห้าร้อยเมตรก็ต้องวิ่งภายในเวลาที่กำหนดอย่างเช่นวิ่ง2นาทีนักศึกษาก็ต้องวิ่งให้ทันเวลาถ้าไม่ทันตามเวลาที่กำหนดถือว่าสอบไม่ผ่านถือว่าสละสิทธิ์และถ้าว่างผ่านตามเวลาที่กำหนดก็ต้องเวลาที่ต้องไปสอบว่ายน้ำอิกสามร้อยเมตรถ้าว่ายน้ำแล้วสอบไมผ่านก็ต้องรอคนที่ทำเวลาได้มากกว่าเราเราถึงจะมีสิทธิ์ในการผ่านขัดเลือกว่ายน้ำแต่ถ้าเราว่ายน้ำผ่านในเวลาแล้วก็ไม่ต้องมารอผลการว่ายน้ำของนักศึกษาอื่นเราก็ผ่านไปเลยตามผกติพอผ่านมาแล้วเราก็ต้องมานั่งชิตอัพอิกส้องร้อยครั้งภายในเวลาที่กำหนดอย่างเช่นภายในเวลาห้านาทีคุณต้องชิตอัพให้สองร้อยครั้งแต่ถ้าไม่ถึงตามเวลาที่กำหนดก็ต้องมานั่งรอผลว่ามีนักศึกษาคนไหนอิกไหมที่ทำได้ด้วยกว่าเราแล้วทำได้น้อยกว่าเราแล้วเวลาดีกว่าเราเราก็ต้องยอมรับตามสภาพของการสอบปฏิบัติแต่ถ้าเราสอบผ่านหมดเลยทั้งสามข้อปฏิบัตินี่แล้วเราก็ไม่ต้องมานั่งรอผลไรเลยก็เตรียมตัวดีใจเฮกันได้เลยว่าเราได้รับข้าราชการตำรวจเต็มตัวแล้ว